ผดผื่นลูก ปัญหาผิวของเด็กทารกที่สามารถพบเจอกันอยู่บ่อยครั้ง จนบางทีผดผื่นเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้อาจจะทำให้คุณแม่ละเลย ลืมใส่ใจและปล่อยให้หายเอง ซึ่งหากเป็นผดผื่นลูกที่เกิดขึ้นจากการระคายเคืองเพียงเล็กน้อย สามารถหายเองได้ก็ถือเป็นเรื่องโชคดีไป แต่ถ้าหากผดผื่นที่เกิดขึ้นไม่มีทีท่าว่าจะหายไปเอง แต่กลับส่งผลต่อผิวลูกน้อยในระยะยาว หรือมาในรูปแบบอาการข้างเคียงจากโรคผิวหนังอื่น ๆ คงไม่ใช่เรื่องดีแน่ มาดูกันค่ะ ว่าปัญหาที่ต้องการขึ้นหากคุณแม่ละเลยผดผื่นลูกจะมีอะไรบ้าง? sebamed ยกเอาปัญหาที่มีโอกาสเกิดมากที่สุด 6 ปัญหามาฝากค่ะ
ความชุ่มชื่นหาย พัฒนาการผิวหยุดชะงัก
เรื่องใหญ่ที่ต้องเกิดขึ้นกับลูกน้อยอย่างแน่นอนคือความชุ่มชื่นที่หายไปจากผิว สำหรับผู้ใหญ่เอง การที่ผิวขาดความชุ่มชื่นอาจจะสามารถฟื้นฟูได้ในระยะเวลาสั้น ๆ แต่เด็กทารกที่ยังไม่สามารถควบคุมอุณหภูมิภายในผิวได้ อีกทั้งโครงสร้างผิวยังไม่สมบูรณ์แบบ เมื่อผดผื่นลูกถูกปล่อยไว้จนแห้งลอกรุนแรง ความชุ่มชื่นในผิวหายไปจึงฟื้นฟูยากกว่าวัยอื่น นอกจากนี้ยังหมายถึงพัฒนาการผิวของลูกจะต้องหยุดชะงักลงด้วย เพราะความชุ่มชื่นถือเป็นส่วนสำคัญของการพัฒนาโครงสร้างผิวให้สมบูรณ์แข็งแรงตามวัย
ผื่นมีโอกาสขยายวงกว้าง
ผดผื่นเหล่านี้ไม่ว่าจะมาจากสาเหตุใด มีโอกาสลุกลามขยายเป็นวงกว้างทำลายผิวได้ทั้งนั้น ซึ่งสิ่งที่จะมากระตุ้นทำให้ผดผื่นลูกเป็นมากขึ้นมาจากหลายปัจจัยทั้งตัวเชื้อโรคต่าง ๆ ที่ทำให้เกิดผดผื่นเอง หรือปัจจัยภายนอกอย่าง สิ่งแวดล้อม สารเคมี ของใช้ หรือแม้กระทั่งการเสียดสีของผิวหนังกับเสื้อผ้าของลูกน้อยเอง
ผิวเป็นแผลจากการเกา หรือเสียดสีบริเวณที่เป็นผื่น
ผดผื่นลูกบางประเภทมีอาการคันร่วมอยู่ด้วย ซึ่งลูกน้อยเองยังไม่สามารถพูดบอกสิ่งที่เขากำลังรู้สึกได้โดยตรงได้ แต่จะแสดงออกทางการกระทำแทน เช่น งอแงจากความไม่สบายตัว ใช้มือหรือแขนสัมผัสบริเวณที่เกิดผื่นบ่อย ๆ เมื่อผิวอ่อนแอถูกถู สัมผัส หรือโดนเล็บของลูกน้อยเข้าบ่อย ๆ อาจทำให้ผิวถลอก กลายเป็นแผลในที่สุด
ผื่นอาจพัฒนาไปเป็นผิวอักเสบ
หากผดผื่นที่ลูกน้อยเป็นอยู่ในระดับที่ไม่รุนแรง เป็นแล้วหายได้เองก็ถือเป็นเรื่องโชคดีไป แต่ถ้าไม่หาย และไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง ผดผื่นบนผิวลูกจะพัฒนาไปเป็นอาการผิวอักเสบต่ออย่างแน่นอน จากผดผื่นแดงธรรมดาจะเริ่มขยายวงกว้าง ผิวเริ่มแดงนูน เมื่อสัมผัสผิวจะรู้สึกร้อนกว่าผิวส่วนอื่น บอบบางกว่าเดิม ถลอกง่าย และอาจจะรุนแรงถึงขั้นเป็นแผลพุพอง เป็นหนอง
ติดเชื้อง่าย หากไม่ได้รับการดูแล
เรื่องไม่คาดคิดสามารถเกิดขึ้นได้เสมอหากละเลยผิวลูกน้อยในขณะที่เกิดผดผื่น มีเด็กหลายคนที่โชคร้ายจากอาการผดผื่นลูกที่ไม่รู้ว่าสาเหตุมาจากอะไร บวกกับการดูแลรักษาเฉพาะจุดที่ไม่ดีเท่าที่ควร นอกจากผดผื่นเหล่านี้จะพัฒนาไปเป็นผิวอักเสบแล้ว ผิวบอบบางยังสามารถติดเชื้อได้อีก ซึ่งถ้ารุนแรงไปถึงขั้นนั้นแล้วบอกได้เลยว่าเรื่องใหญ่ ต้องรักษากันอีกยาวค่ะ
ผื่นอาจจะซ่อนโรคเอาไว้
ผดผื่นลูกที่คุณแม่เห็นอาจจะไม่ใช่เพียงผื่นจากการระคายเคืองทั่วไปก็ได้ อาจเป็นผดผื่นที่ซ่อนโรคผิวหนังเอาไว้ โรคฮิตยอดนิยมในเด็กที่มักจะมีผดผื่นขึ้นตามตัว เช่น อาการภูมิแพ้ ไข้เลือดออก โรคหัด โรคเซบเดิร์ม ผิวหนังอักเสบ รูขุมขนอักเสบ เป็นต้น
เห็นอย่างนี้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นผดผื่นเล็กน้อยแค่ไหน เป็นในบริเวณไหน คุณแม่ไม่ควรละเลยเด็ดขาด ระยะแรกที่เป็นผดผื่นอาจจะเริ่มต้นจากการดูแลด้วยตัวเองก่อน โดยเฉพาะการอาบน้ำ ทำความสะอาดอย่างหมดจด แต่ต้องอ่อนโยนไม่ทำให้ผิวถูกรบกวนมากขึ้นกว่าเดิม หลีกเลี่ยงการเสียดสีบริเวณที่เป็นผดผื่น ทั้งจากเสื้อผ้าที่ใส่ ผ้าอ้อม หรือแม้กระทั่งตัวลูกน้อยเอง นอกจากนี้ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับผิวที่มีความอ่อนโยนมาเป็นพิเศษ ลดการระคายเคืองและผดผื่นแพ้ต่าง ๆ ไร้สารเคมีที่เป็นอันตรายต่อเด็ก ที่สำคัญมีการปรับสมดุลผิวให้เป็น pH 5.5 อย่าง Baby sebamed ที่พร้อมเสริมสร้างเกราะคุ้มครองผิวให้มีความแข็งแรง ทำให้ร่างกายลูกน้อยสามารถพัฒนาโครงสร้างผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด