เป็นรังแค แต่ละครั้ง ทำเอาวุ่นวายกันไปหมด ไหนจะต้องเลือกสีเสื้อผ้าให้ดีเพื่อไม่ให้เห็นสะเก็ดรังแคที่ตกลงมาเต็มไหล่ ไหนจะต้องรักษารังแคให้หาย ไหนจะต้องค่อยใส่หมวก มัดผมปกปิดรังแค ทั้งกังวล ทั้งหมดความมั่นใจ ถึงแม้ว่ารังแคตัวดีจะชอบมา ๆ หาย ๆ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่สามารถสลัดมันทิ้งแบบถาวรได้ วันนี้ sebamed มีวิธีเฝ้าระวัง ว่าอาการแบบไหนที่จะทำให้คุณมีโอกาสเป็นรังแคเข้าให้แล้ว พร้อมวิธีบอกลารังแคดี ๆ รับประกันหายขาด บอกลากันแบบถาวรแน่นอน
แต่โอกาสไหนบ้าง? ที่ถือเป็นปัญหาหนังศีรษะที่อาจทำให้คุณต้องเจอรังแครังควานเข้าสักวัน เรายกมาด้วยกัน 6 ปัญหา ดังนี้
เป็นคนหนังศีรษะแห้ง แต่ไม่ใส่ใจในการเลือกใช้แชมพูสระผมให้ถูกกับหนังศีรษะ
แค่หนังศีรษะแห้งก็เสี่ยงต่อการเป็นรังแคจะแย่อยู่แล้ว ยิ่งคุณเกิดไปใช้แชมพูสระผมหรือผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเส้นผมโดยไม่สนใจว่าจะถูกกับหนังศีรษะหรือไม่ จะทำให้หนังศีรษะของคุณแห้งกว่าเดิมหรือเปล่า ยิ่งเป็นโอกาสที่จะทำให้เกิดรังแคง่ายขึ้น จากการผลัดผิวเร็วจนตกสะเก็ดหลุดออกมาเป็นแผ่น ๆ
แก้ยังไง? : แชมพูหรือผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเส้นผมขวดต่อไป คุณอาจต้องใส่ใจในการเลือกซื้อมากกว่านี้ เลือกที่ไม่ทำให้เส้นผมและหนังศีรษะแห้ง หากคุณเป็นคนผมแห้งที่ชอบสระผมทุกวันให้เลือกแชมพูสระผมที่ปราศจากสารสบู่ มอบความชุ่มชื่นให้เส้นผม พร้อมป้องกันไม่ให้หนังศีรษะแห้ง และต้องสามารถใช้สระผมได้ทุกวัน
ไม่ชอบสระผม หรือเป็นคนหนังศีรษะมันง่ายจนเกินไป
อยู่บ้านหลายวันไม่จำเป็นต้องสระผมก็ได้ ใครคิดแบบนี้อยู่หยุดอ่านตรงนี้ก่อน การไม่สระผมนาน ๆ เก็บความมันส่วนเกินและเซลล์หนังศีรษะที่ตายแล้วไว้บนหนังศีรษะที่นับวันมีแต่จะเพิ่มขึ้น ถือเป็นที่มาของการเกิดเชื้อราและกลายเป็นรังแคในที่สุด
แก้ไขยังไง? : สำหรับคนที่ผมมันง่าย อาจต้องปรับการสระผมจากที่ชอบสระทุกวันเป็นลดจำนวนลง เพื่อไม่ให้หนังศีรษะผลิตน้ำมันออกมามากจนเกินไป แต่ส่วนใครที่ไม่ชอบสระผม บังคับตัวเองเสียหน่อย อาจจะสระวันเว้นวัน หรือ 2 วันสระ 1 ครั้ง ยังพอรับไหว แต่ประเภทไม่สระผมเป็นสัปดาห์ห้ามเด็ดขาด
ใช้ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเส้นผมต่อวันเยอะจนเกินไป
วันนี้ลองกลับบ้านไปนับขั้นตอนการจัดแต่งทรงผมของตัวเองกัน ว่าทำผมแต่ละทีคุณใช้ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับทรงผมเกิน 5 อย่างหรือเปล่า? หากเกินหรือใกล้เคียง ต้องลดละเลิกไปบ้าง เพราะผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเส้นผมเหล่านี้เป็นตัวอุดตันรูขุมขนบนหนังศีรษะชั้นดี เมื่อรวมตัวเข้ากับเซลล์ผิวที่ตายแล้ว จะทำให้ง่ายต่อการเป็นรังแค นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมพวกนี้ยังมีสารเคมีที่อาจทำให้เกิดการระคายเคืองต่อหนังศีรษะในอนาคต มีปัญหาผมอื่น ๆ ตามอีกแน่นอน
แก้ไขยังไง? : ลดปริมาณการใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ลงเสียบ้าง หรือหากใครจำเป็นต้องใช้จริง ๆ ต้องหาวันให้เส้นผมและหนังศีรษะพักผ่อนบ้าง ที่สำคัญต้องดูแลความสะอาดหลังจากวันนั้นทั้งวันให้ดี ควรสระผมให้สะอาด และเลือกใช้แชมพูที่ไม่สร้างความระคายเพิ่มเติม
มีภาวะเครียด หรือกำลังเป็นคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์
ใครที่กำลังมีภาวะเครียด หรือกำลังเป็นคุณแม่ตั้งครรภ์อยู่ ฮอร์โมนในร่างกายจะแปรปรวนจนอาจทำให้ร่างกายขาดความสมดุลในบางส่วน ซึ่งเส้นผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้น จึงมีโอกาสที่จะเกิดรังแคในที่สุด
แก้ไขยังไง? : เพราะการเกิดรังแคชนิดนี้เกิดจากฮอร์โมนภายในร่างกาย อาจจะรักษาได้ไม่หายขาดนัก นอกจากคุณจะพ้นสภาวะที่ทำให้ฮอร์โมนแปรปรวนไปได้ แต่ในระหว่างนี้ แนะนำให้ลองใช้แชมพูสระผมที่มีส่วนช่วยในเรื่องการขจัดรังแคดู แต่ต้องเลือกให้ดีโดยเฉพาะคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์เลือกให้เป็นสูตรอ่อนโยน ไม่ส่งผลกระทบต่อลูกในครรภ์ และไม่ทำให้เกิดการระคายเคืองเพิ่มเติม
หนังศีรษะอยู่ในสภาวะค่าสมดุลที่ไม่บาลานซ์
การมีหนังศีรษะที่อยู่ในสภาวะค่าสมดุล (pH) ที่ไม่บาลานซ์ ถือเป็นการเปิดโอกาสให้หลาย ๆ ปัญหาเส้นผมและหนังศีรษะเข้ามา ไม่ใช่แค่เพียงรังแคเท่านั้น
แก้ไขยังไง? : การเร่งหาวิธีปรับสมดุลหนังศีรษะให้กลับมาอยู่ในค่าบาลานซ์ หรือ pH 5.5 เป็นสิ่งที่ควรทำเป็นอันดับแรก เร็วที่สุดคือการใช้ผลิตภัณฑ์จาก sebamed ที่มีค่า pH 5.5 เป็นส่วนประกอบเพื่อปรับสมดุลผม
สำหรับใครที่เฝ้าระวังแล้ว แต่ไม่ทันดันเป็นรังแคไปซะก่อน อย่าลืมหาวิธีรักษาโดยเริ่มต้นจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการเพิ่มจำนวนของรังแค และเปลี่ยนมาใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเส้นผมที่ช่วยในเรื่องการขจัดรังแคโดยเฉพาะอย่าง sebamed Anti – Dandruff Shampoo pH 5.5 มีส่วนผสมของสารออกฤทธิ์ไพรอคโทน โอลามีน ช่วยขจัดรังแค ลดอาการคันหนังศีรษะได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมมอบความชุ่มชื่นให้กับหนังศีรษะ สามารถสระได้บ่อยตามที่ต้องการ